Wednesday, October 24, 2012

เมื่อลูกโตเป็นหนุ่มสาวเร็วก่อนวัยอันควร



รู้สึกมั้ยคะว่าเด็กยุคใหม่สมัยนี้โตกันเร็วจริงๆ หลานตัวน้อยแถวๆ นี้อายุยังไม่ถึงสองขวบดี แต่ตัวโตอย่างกับเด็ก 3 ขวบเลย และพอเริ่มเข้าสู่วัยพรีทีน ก็กลายเป็นว่าโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเด็กตัวสูงไม่ถึงเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ตามลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัว และตามศักยภาพที่แท้จริงของร่างกาย
 
 นอกจากปัญหาเรื่องความสูงแล้ว เด็กที่มีภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านอารมณ์ และพฤติกรรมด้วย เพราะเมื่อเด็กมีฮอร์โมนเพศขึ้นมา อารมณ์ก็เริ่มรุนแรงขึ้น ในขณะที่เขายังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ เพราะยังเป็นเด็กอยู่ ก็อาจจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้เด็กจะเริ่มมีความสนใจในเรื่องทางเพศมากขึ้น เริ่มรักสวยรักงาม หรือห่วงหล่อ ห่วงสวยมากขึ้น และเริ่มมีความสนใจ

ในเพศตรงข้ามทั้งที่ยังไม่ถึงวัยที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเด็กโดยตรง
แต่เรื่องนี้ ถ้าพ่อแม่มองเห็นความผิดปกติในการเจริญเติบโตของลูก ตั้งแต่แรก และแก้ไขได้ทันเวลา ลูกก็ยังมีโอกาสที่จะมีส่วนสูงได้ตามปกติ แต่ถ้าพ่อแม่มองเห็นปัญหาช้าเกินไป และแก้ไขไม่ทัน ลูกก็จะมีส่วนสูงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ตามลักษณะทางพันธุกรรม
 
สาเหตุและวิธีป้องกัน ภาวะเด็กเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย

เด็กโตก่อนวัย หรือภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ในเด็กผู้หญิง ภาวะเป็นสาวก่อนวัย คือการที่เด็กมีเต้านมก่อนอายุ 8 ปี ส่วนภาวะเป็นหนุ่มก่อนวัย คือ มีขนหัวหน่าวในเด็กชาย และอัณฑะมีขนาดใหญ่เกิน 2.5 เซนติเมตร ก่อนอายุ 9 ปี
 
สาเหตุของภาวะเป็นสาวก่อนวัยในเด็กผู้หญิงนั้น 80 % ไม่ทราบสาเหตุ อีก 20 % อาจเกิดจากการมีเนื้องอกในสมอง หรือมีซีสต์ในรังไข่

80% ของเด็กผู้หญิง ที่ไม่ทราบสาเหตุของภาวะเป็นสาวก่อนวัยนั้น มักพบใน เด็กผู้หญิงที่อ้วน กินอาหารที่มีการปนเปื้อนฮอร์โมนมากเกินไป เช่น ไก่ หรือกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป เช่น เบเกอรี่ต่างๆ ไอศกรีม ช็อกโกแลต และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแดรี่ เช่น เนย ทำให้มีการสะสมของไขมันในร่างกายมากเกินไป และได้รับฮอร์โมนปนเปื้อนจากอาหารที่กินเข้าไป และสะสมอยู่ในร่างกายในปริมาณมาก จนทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะของการเป็นสาว ก่อนเพื่อนในวัยเดียวกัน

ส่วนภาวะเป็นหนุ่มก่อนวัยในเด็กผู้ชาย เบื้องต้นต้องหาสาเหตุให้เจอก่อนว่า มีเนื้องอกในสมองหรือไม่ ถ้าไม่มีจึงจะสามารถสรุปได้ว่า เด็กผู้ชายคนนั้นมีภาวะเป็นหนุ่มก่อนวัยโดย เช่นเดียวกันกับในเด็กผู้หญิง คือ เด็กผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุของภาวะเป็นหนุ่มก่อนวัย มักจะเป็นเด็กอ้วน และเป็นเด็กกินอาหารที่มีฮอร์โมนปนเปื้อนมากเกินไป หรือชอบกินอาหารจำพวกเบเกอรี่
 
การรักษา
ในกรณีที่พบว่าสาเหตุของภาวะเป็นหนุ่ม เป็นสาวก่อนวัย มาจากเนื้องอก ก็ต้องตัดชิ้นเนื้อนั้น มาตรวจดูว่า เป็นเนื้องอกชนิดร้าย หรือดี และให้การรักษาไปตามสาเหตุ ถ้าเป็นซีสต์ในรังไข่ ก็ดูว่าเป็นซีสต์ชนิดไหน แล้วรักษาตามอาการของซีสต์ชนิดนั้น

ส่วนเด็กที่อยู่ในกลุ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว ก่อนวัยโดยไม่ทราบสาเหตุนั้น ในตอนแรกเด็กอาจมีการเจริญเติบโตมากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน เช่น ในเด็กผู้หญิง ก็จะตัวสูงใหญ่กว่าเพื่อนๆ มีอกเอวสะโพกก่อนเพื่อนๆ แต่สุดท้ายแล้วเด็กจะหยุดการเจริญเติบโตก่อนเพื่อน ในขณะที่เพื่อนๆ ก็จะยังคงมีตามอัตราการเจริญเติบโตไปตามวัย ทำให้เด็กที่มีภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย สูงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ตามศักยภาพของร่างกาย และตามพันธุกรรม เช่น ถ้าแม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นตัวสูง ในความเป็นจริง เด็กก็จะต้องตัวสูงอย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรจะต่ำกว่า 160 เซนติเมตรเป็นต้น แต่ถ้าเด็กเกิดภาวะเป็นสาวก่อนวัย จะทำให้ส่วนสูงของเด็ก ไม่เป็นไปตามลักษณะทางพันธุกรรมที่ควรจะเป็น

ดังนั้นวิธีการรักษาเด็กในกลุ่มที่ไม่ ทราบสาเหตุ จะทำได้โดย ให้ยายับยั้งฮอร์โมนเพศของเด็กไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เด็กคนนั้นมีฮอร์โมนเพศหญิงที่เยอะเกินไป และให้ฮอร์โมนอยู่ในระดับปกติ ซึ่งจะช่วยให้กระดูกของเด็กไม่แก่เร็วเกินไปจนกระดูกปิด และหยุดสูง การให้ยายับยั้งฮอร์โมน จะช่วยให้เด็กมีระยะเวลาการเติบโตที่เป็นไปตามวัย ก็จะได้ความสูงที่ควรจะเป็นตามศักยภาพของร่างกาย และตามลักษณะทางพันธุกรรม
 
ยาที่ใช้ในการช่วยระงับปริมาณฮอร์โมนเพศ ในร่างกาย ไม่ให้มีมากเกินไปนั้น เป็นยาฉีดที่ต้องฉีดทุก 4 สัปดาห์ ระยะเวลาในการฉีดอยู่ระหว่าง 2 – 8 ปี ทั้งนี้จะต้องฉีดเป็นระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ ก็แล้วแต่กรณีของเด็กแต่ละคน ขึ้นอยู่กับว่าเด็กเริ่มเข้าสู่ช่วงเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยตอนอายุเท่าไหร่ ยิ่งเด็กเข้าสู่ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยเร็วเท่าไหร่ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาการรักษานานกว่า

หลังจากเริ่มฉีดยาไปแล้ว แพทย์ที่ให้การรักษา จะมีการติดตามอายุกระดูกในระหว่าง 6 – 12 เดือน ตั้งแต่เริ่มฉีดยาครั้งแรก ว่ามีอัตราการเติบโตของอายุกระดูกช้าลง และอายุกระดูกใกล้เคียงอายุจริงมากขึ้นโดยแพทย์จะให้ยา และให้การรักษาไปจนกว่าเด็กจะมีพัฒนาการทางร่างกายที่เหมาะสมตามวัย จนกระทั่งอายุกระดูก 12-13 ปี เมื่อหยุดใช้ยา เด็กก็จะเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาวตามปกติค่ะ

พญ.นวลผ่อง เหรียญมณี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกุมารเวชศาสตร์ และโรคต่อมไร้ท่อ ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2
www.tinyzone.tv




No comments:

Post a Comment