ติดน้ำอัดลมแต่อยากเลิกทำไงดี
?
มาดู 12 วิธีเลิกติดน้ำอัดลมแบบง่าย ๆ
ที่ทำแล้ว จะไม่มีวันไปติดน้ำอัดลมอีกแน่นอน
เราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำอัดลมไม่ดีต่อสุขภาพ
การดื่มน้ำอัดลมนั้นนอกจากจะทำให้เราได้รับน้ำตาลมากเกินไปแล้ว ก็ยังมีบทวิจัยออกมาชี้ว่าน้ำอัดลมทำให้อายุสั้นลงได้อีกด้วย
แต่จะให้เลิกแบบหักดิบกันไปเลยคงทรมานกันน่าดู แต่ถ้าดื่มต่อไปก็คงจะรังแต่ทำให้เสียสุขภาพ
ถ้าอย่างนั้นห้ามพลาดวิธีการเลิกน้ำอัดลมที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเองซึ่ง เว็บไซต์ Health
หยิบยกมาแนะนำให้เราได้ทราบกันค่ะ ไม่อยากอ้วน และเสี่ยงโรคเบาหวานก็ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะ
จะได้เลิกติดน้ำอัดลมกันสักทีไงล่ะจ๊ะ
1. ค่อย ๆ เลิก
แม้ว่าผลเสียที่มาจากการดื่มน้ำอัดลมจะมีมากพอให้รีบเลิกดื่มน้ำอัดลม
แต่การเลิกดื่มน้ำอัดลมในทันทีไม่ใช่วิธีที่จะได้ผลในระยะยาว การค่อย ๆ ลดปริมาณในการดื่มต่างหากที่จะให้ผลดีในระยะยาว
และทำให้สามารถเลิกได้เด็ดขาดมากกว่า โดย Stefanie Sacks นักโภชนาการและผู้เขียนหนังสือ
What the Fork Are You Eating? ได้แนะนำวิธีเลิกน้ำอัดลมไว้ว่าหากปกติแล้วดื่มน้ำอัดลมวันละหลายแก้ว
ก็ควรจะเริ่มต้นเลิกด้วยการลดเหลือเพียงวันละ 1 แก้ว จากนั้น
2 สัปดาห์ค่อยลดเป็น 3 แก้วต่อสัปดาห์
วิธีนี้จะช่วยทำให้เราค่อย ๆ ปรับตัวสู่การเลิกน้ำอัดลมในระยะยาวได้ดีขึ้น
2. ผสมกับน้ำเปล่า
อาจจะดูแปลกไปเสียหน่อย
กับการนำน้ำอัดลมผสมกับน้ำ แต่วิธีนี้จะทำให้คุณดื่มน้ำอัดลมน้อยลง ช่วยทำให้คุณดื่มน้ำเปล่าได้มากขึ้น
แถมยังช่วยลดความหวานของน้ำอัดลมลงได้อีกด้วย ที่สำคัญเมื่อเรารู้สึกไม่อร่อยกับน้ำอัดลมที่ผสมน้ำ
ก็จะทำให้เราค่อย ๆ เลิกดื่มมันไปเอง
3. เริ่มต้นนับแคลอรี
โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ดื่มน้ำอัดลมมักจะไม่ค่อยสนใจถึงปริมาณแคลอรีของน้ำอัด
ลมสักเท่าไร แต่ขอบอกเลยว่าน้ำอัดลมแคลอรีเยอะใช่ย่อยเลยนะ โดยน้ำอัดลมขนาดกระป๋องทั่วไป
มีปริมาณแคลอรีถึง 240 แคลอรี ในขณะที่บรรดาของว่างที่ดีต่อสุขภาพนั้นมีแคลอรีแค่เพียง
200 แคลอรี แล้วลองนึกสิว่าการที่คุณดื่มน้ำอัดลมทุกวัน วันละหลายกระป๋องนั้นจะทำให้คุณอ้วนขึ้นมาขนาดไหน
แต่ถ้ายังไม่มีแรงบันดาลใจในการเลิกดื่มน้ำอัดลมมากพอ ก็ลองหันมานับแคลอรีดูสิ นอกจากจะช่วยทำให้ลดการดื่มน้ำอัดลมได้แล้วก็ยังสามารถช่วยลดปริมาณการรับ
ประทานอาหารได้อีกด้วย ลดได้ 2 ต่อแบบนี้ต้องลองนะ
4. คิดถึงวิธีการเผาผลาญแคลอรี
ถ้าการนับแคลอรียังไม่ได้ผล
ก็ลองนึกถึงวิธีการเผาผลาญเจ้าแคลอรีเหล่านั้นดูค่ะ อยากเช่นการดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะต้องวิ่งจ็อกกิ้ง 50 นาที หรือวิ่งเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตรเพื่อเผาผลาญแคลอรีเหล่านั้นออกไป
อาจจะดูง่าย ๆ แต่ขอบอกเลยว่าวิธีคิดแบบนี้สามารถทำให้เราดื่มน้ำอัดลมน้อยลงได้เลยล่ะ
ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายก็ยิ่งจะไม่อยากแตะน้ำอัดลมเลยเชียว
5. เปลี่ยนมาดื่มชาแทน
หากมีใครที่กำลังดื่มน้ำอัดลมเพื่อให้ได้คาเฟอีนละก็ ขอให้ลองเปลี่ยนมาดื่มชาค่ะ
เพราะชาก็มีคาเฟอีนเช่นกัน แถมชาเนี่ยยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย แต่ถ้าไม่ค่อยชอบรสชาติของชาสักเท่าไรก็ลองเติมมะนาว
ใบมินต์ หรือ น้ำผึ้งสักเล็กน้อย ก็จะช่วยทำให้รสชาติของชาถูกใจมากขึ้นค่ะ แล้วจะรู้ว่าการดื่มชาน่ะดีขนาดไหน
6. ก่อนดื่มน้ำอัดลม ดื่มน้ำเปล่าก่อน
หลายครั้งคนเราก็ดื่มน้ำอัดลมเพราะความรู้สึกกระหาย และความรู้สึกกระหายน้ำนี่ล่ะที่ทำให้เราดื่มน้ำอัดลมมากจนเกินไป
การดื่มน้ำเปล่าก่อนการดื่มน้ำอัดลมจะช่วยทำให้ความอยากน้ำอัดลมลดลง และช่วยลดความกระหายได้ดีกว่าการดื่มน้ำอัดลมเยอะเลยล่ะค่ะ
แถมน้ำเปล่าก็ยังดีกับสุขภาพอีกด้วยนะ คราวหน้าถ้าอยากดื่มน้ำอัดลมก็ลองดื่มน้ำเปล่าเข้าไปสัก
1 แก้วใหญ่ ๆ นะ เผื่อจะได้อยากดื่มน้ำอัดลมน้อยลง
7. เปลี่ยนมาดื่มโซดาแทน
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมเพราะชอบโซดาละก็
วิธีเลิกน้ำอัดลมที่ดีที่สุดก็คือการหันมาดื่มโซดาแทน โดยอาจจะดื่มโซดาเปล่า ๆ
หรือโซดาผสมน้ำผลไม้ ไม่ก็โซดาที่มีการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติก็ได้ทั้งนั้นค่ะ แต่ที่สำคัญคือปริมาณน้ำตาลต้องไม่มากจนเกินไป
ถ้าทำได้ละก็รับรองว่าเลิกดื่มน้ำอัดลมได้แน่นอน
8. ลองน้ำหมักผลไม้ดูสิ
ไม่นานมานี้กระแสการดื่มน้ำหมักผลไม้ต่าง
ๆ หรือ Infused Water กำลังมาแรง
แต่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าน้ำเหล่านี้ดื่มได้จริง ๆ เหรอ ขอบอกเลยค่ะว่าน้ำหมักผลไม้นี้นอกจากจะช่วยระบบขับถ่ายและช่วยขับสารพิษแล้ว
รสชาติยังอร่อย และทำให้รู้สึกสดชื่นได้ไม่แพ้น้ำอัดลมเลยล่ะ ถ้ายังติดน้ำอัดลมอยู่แล้วอยากจะเลิก
ลองใช้น้ำหมักผลไม้เหล่านี้เป็นทางออกก็ไม่เลวนะ
9. เลือกซื้อที่มีคาเฟอีนน้อย
จริง
ๆ แล้วสาเหตุที่เราติดน้ำอัดลมไม่ได้มาจากการน้ำตาลหรือโซดาในน้ำอัดลม แต่เป็นคาเฟอีนต่างหาก
ซึ่งการดื่มน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนน้อยจะช่วยทำให้ความอยากดื่มน้ำอัดลมหมดไป โดยมีการศึกษาล่าสุดในปี
2015 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร British Journal of Nutition พบว่าการดื่มน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนน้อยติดต่อกันจะช่วยทำให้ลดการดื่มน้ำอัด
ลมลงได้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าน้ำอัดลมยี่ห้อไหนมีคาเฟอีนน้อย ก็ลองอ่านฉลากหรือตารางโภชนาการที่อยู่บนกระป๋องดูค่ะ
รับรองว่าเลือกได้แน่นอน
10. หักห้ามใจให้ได้
หลายคนมักจะมีช่วงเวลาหรือ
สถานการณ์ที่ทำให้เลือกดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่าโดยอัตโนมัติ อย่างเช่นบางคนอาจจะต้องดื่มน้ำอัดลมตอนบ่ายทุกวันเพื่อให้รู้สึกสดชื่น
หรือทุกครั้งที่รับประทานฟาสต์ฟู้ดก็จะต้องสั่งน้ำอัดลม ซึ่งถ้าหากเราสามารถหักห้ามใจไม่ให้ดื่มน้ำอัดลมในสถานการณ์เหล่านี้ได้
เราก็จะสามารถเลิกดื่มได้ ถ้ายังเลิกรับประทานเครื่องดื่มหวาน ๆ ไม่ได้ ก็ลองเปลี่ยนมาดื่มชามะนาว
หรือน้ำผลไม้แทน เครื่องดื่มเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้สดชื่นได้เช่นกันค่ะ
11. เลิกดื่มน้ำอัดลม 2 สัปดาห์
การเลิกดื่มน้ำอัดลมไปเลยทันทีอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับใครหลาย
ๆ คน แต่ถ้าหากเปลี่ยนจากการเลิกเด็ดขาดเป็นการเลิกดื่มน้ำอัดลมชั่วคราวสัก 2
สัปดาห์ ก็สามารถช่วยให้เราดื่มน้ำอัดลมได้น้อยลงนะ ถึงแม้ว่าจะให้ผลในระยะสั้น
แต่ก็ได้ผลดีเชียวล่ะ เพราะในช่วง 2 สัปดาห์นั้นคุณจะเริ่มเคยชินกับการไม่ดื่มน้ำอัดลม
และเมื่ออนุญาตให้ตนเองกลับมาดื่มน้ำอัดลมได้อีกครั้ง บางทีคุณก็อาจจะดื่มน้อยลง
หรือไม่ดื่มอีกเลยก็ได้ค่ะ
12. ดื่มเฉพาะในโอกาสสำคัญ
หากคุณสามารถเลิกติดการดื่มน้ำอัดลมได้แล้วล่ะก็
ไม่จำเป็นจะเลิกดื่มตลอดไปก็ได้ค่ะ แต่อาจจะสงวนเอาไว้ในโอกาสพิเศษ หรือโอกาสอื่น
ๆ ที่คุณรู้สึกว่าต้องดื่มน้ำอัดลมถึงจะเหมาะที่สุด อย่างเช่นการรับประทานอาหารบางอย่างที่จะต้องมีน้ำอัดลมด้วยถึงจะอร่อยมาก
ขึ้น แบบนี้จะช่วยให้คุณควบคุมปริมาณการดื่มน้ำอัดลมได้ และไม่กลับไปติดอีกแน่นอน
12 วิธีที่นำมาแชร์กันก็คงจะพอให้หลาย
ๆ คนมีไอเดียในการเลิกดื่มน้ำอัดลมแล้วล่ะเนอะ ยังไงถ้าเลิกได้ก็ควรเลิกดีที่สุด
เพราะถึงแม้เครื่องดื่มจะอร่อย และทำให้สดชื่น
แต่ก็ไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปแน่นอน แถมยังจะอายุสั้นลงอีกด้วย
ครั้งต่อไปหากอยากดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ อยู่ให้ไกลจากน้ำอัดลมได้ก็ดีนะจ๊ะ
แหล่งที่มา http://health.kapook.com/view114367.html
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/18858892173133198/
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/18858892173133198/
No comments:
Post a Comment