Saturday, October 4, 2014

ไส้ติ่งอักเสบ อาการต้องสงสัยอย่างนี้ไม่ควรมองข้าม




          เช็คด่วน 9 อาการไส้ติ่งอักเสบ ที่น่าสงสัย และไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

          ไส้ติ่งอักเสบ เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและอาจทวีความรุนแรงได้หากปล่อยปละละเลย บางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่เราจะรู้กันได้อย่างไรละว่าเรากำลังเป็นไส้ติ่งอักเสบ วันนี้กระปุกดอทคอมขอพาทุกท่านไปเรียนรู้อาการไส้ติ่งอักเสบที่เราสามารถ สังเกตได้เบื้องต้นที่เว็บไซต์ health.com นำมาบอกเล่ากัน เผื่อใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่ จะได้รีบไปหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจ ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะคะ

ปวดท้องบริเวณสะดือ

          สัญญาณแรกของอาการของไส้ติ่งอักเสบนั้นจะเริ่มแสดงให้เห็นจากการปวดท้องด้านขวา ล่าง แล้วจึงค่อย ๆ ปวดตรงบริเวณสะดือ และจะเคลื่อนลงไปที่ช่องท้องส่วนล่าง ซึ่งในบางราย อย่างเช่นเด็กและสตรีมีครรภ์อาจจะเกิดอาการปวดที่ส่วนอื่น ๆ ของช่องท้องได้ค่ะ อาการปวดเหล่านี้จะยิ่งเลวร้ายลงหากคุณขยับขา และบริเวณท้องซึ่งมาจากการไอ การจาม หรืออาการสั่นสะเทือนในขณะที่นั่งอยู่บนรถที่ขับในทางที่เป็นขรุขระ

เกิดอาการปวดอย่างเฉียบพลัน

          อาการปวดที่บริเวณส่วนล่างของช่องท้องจะหนักขึ้น จนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเป็นการปวดที่มากที่สุดในชีวิต ซึงอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะปลุกผู้ป่วยที่กำลังหลับ อยู่ให้ตื่นขึ้นมาได้ โดยอาการปวดท้องนี้จะทวีความเจ็บปวดมากขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงค่ะ

มีไข้ต่ำ ๆ และหนาวสั่น

          อาการไส้ติ่งอักเสบนั้นคล้ายคลึงกับอาการปวดท้องที่เนื่องมาจากอาการติดเชื้อ บางอย่างที่ไม่รุนแรง และจะส่งผลให้เกิดไข้ต่ำ ๆ และอาการหนาวสั่นได้ ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำ ๆ เพียงอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร แต่ถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำ ๆ รวมกับอาการปวดท้อง จนทำให้คุณไม่มีแรงยืนขึ้นให้ตรงได้ นั่นก็แปลว่าคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบแล้วละค่ะ

คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร

          ถ้าหากในช่วง 2 - 3 วันนี้คุณมีอาการเบื่ออาหารร่วมกับอาการคลื่นไส้และอาเจียน มันอาจจะเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อบางชนิดที่ไม่รุนแรง และสามารถหายได้โดยธรรมชาติหลังจากนั้น แต่ถ้าหากอาการเลวร้ายลง มีอาการไข้และปวดบริเวณช่องท้องด้านขวาส่วนล่าง คุณควรจะไปพบแพทย์ก่อน แต่ถ้าหากคุณอามีอาการเจียนมากกว่า 12 ชั่วโมง หรือท้องเสียมากกว่า 2 วัน นั่นแปลว่าคุณอาจกำลังเป็นไส้ติ่งอักเสบและควรรีบไปโรงพยาบาลด่วนเลยค่ะ

ท้องผูกหรือท้องเสีย

          เช่นเดียวกับอาการอื่น ๆ ถ้าหากมันไม่รุนแรงและเกิดขึ้นไม่นาน ก็สบายใจได้ค่ะ แต่ถ้าหากคุณมีอาการท้องเสียไม่รุนแรงและมูกปนออกมาด้วยมากผิดปกติร่วมกับ อาการปวดช่องท้องด้านล่างขวาด้วยละก็ รีบไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ

ท้องอืด และมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

          การรับประทานอาหารมากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดและมีแก๊สในกระเพาะ อาหารไห้ทั้งนั้นละค่ะ แต่ถ้าหากยังมีอาการเหล่านั้นอยู่ถึงแม้ว่าจะเข้านอนและตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วก็ตาม แถมถ้าอาการเหล่านั้นยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ก็สงสัยได้แล้วค่ะว่าอาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ เพราะการที่มีอาการท้องอืดและแก๊สติดต่อกันมากกว่า 2 วัน พร้อมกับอาการปวดภายในช่องท้อง นั่นคืออาการของโรคไส้ติ่งอักเสบ ยิ่งถ้าหากมีอาการอื่น ๆ อย่างเช่นอาการไข้และปวดท้องส่วนล่างร่วมด้วยละก็ ฟันธงได้เลยค่ะว่าไส้ติ่งอักเสบแน่นอน


อาการปล่อยเจ็บ

          อาการปล่อยเจ็บ คือการค่อย ๆ ใช้มือกดลงไปที่ช่องท้องลงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกเจ็บแล้วจึงปล่อย ซึ่งผู้ที่เป็นไส้ติ่งอักเสบนั้น ถ้าหากใช้มือกดลงไปที่ช่องท้องส่วนขวาล่างเพียงนิดเดียวก็จะรู้สึกเจ็บ และถ้ารู้สึกเจ็บละก็ อย่ากดอีก และถ้าหากคุณมีอาการข้างเคียงอย่างเช่น มีไข้ คลื่นไส้ และอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย คุณก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ

สภาพผิวเปลี่ยนแปลง

          ผิวหนังของเรามักจะแสดงความผิดปกติในร่างกายได้เสมอ อย่างเช่นอาการท้องนอกมดลูก หรือโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ รวมทั้งอาการท้องผูก ผิวหนังของเราก็จะแสดงออกคล้ายคลึงกับอาการไส้ติ่งอักเสบ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพิ่มทำการอัลตราซาวด์หรือตรวจปริมาณเซลล์เม็ดเลือด ขาวในเลือด เพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงหรือไม่

ไม่มีอาการอะไรเลย

          แม้ว่าจะมีเรื่องเล่าว่าอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นอาจจะไม่ส่งผลให้เกิดอาการใด ๆ ในร่างกายเลยก็ตาม แถมร่างกายยังสามารถรักษาตัวเองจนหายได้ แต่ขอบอกเลยค่ะว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะถ้าหากคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบและไส้ติ่งนั้นแตก ไม่ว่ายังไงคุณก็จะรับรู้มันได้อย่างแน่นอนค่ะ

          ไส้ติ่งอักเสบ เป็นอาการที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากทิ้งไว้เรื้อรังอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นถ้าหากมีอาการอย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วละก็ ควรจะรีบไปพบแพทย์อย่างด่วนเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตค่ะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment