ชื่ออื่นๆ: ฟักเขียว ฟักขาว ฟักแฟง บักฟัก ขี้พร้า ฟักหม่น ฯลฯ ผักสวนครัวชนิดหนึ่งที่ปลูกง่าย หาได้ง่าย เป็นผักชนิดแรกที่เด็กเริ่มหัดกิน ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารและบำรุงร่างกายได้ นิยมนำมาใส่ในแกง ต้ม ผัดต่างๆ บ้างทำเป็นขนมหวานในเทศกาล แต่เมนูยอดนิยมคงจะเป็นแกงเขียวหวานไก่ฟักเขียว แกงจืดฟักต้มกับไก่ แกงเลียง ฟักเขียวผัดกับหมูใส่ไข่ ฟักเชื่อม รวมถึงยอดอ่อนที่นำมาลวก หรือต้มกะทิ กินกับน้ำพริกได้ มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ผักอื่นเหมือนกัน ตำราจีนโบราณกาลระบุว่า "สำหรับผู้ที่อยากให้ร่างกายผอมแต่แข็งแรงให้กินเป็นประจำ ถ้าอยากอ้วนก็อย่ากิน"
สรรพคุณ :
- ใบ แก้ฟกช้ำ
แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง
- ผล
ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสบ
- ไส้ฟัก
แก้อาเจียนเป็นโลหิต แก้ฝีที่เต้านม
- เมล็ด
ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไตอักเสบ บำรุงผิว ละลายเสมหะ
ตกขาว
- ราก
ต้มดื่มแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ
- เถาสด รสขมเย็น
ใช้รักษาริดสีดวงทวาร มีไข้สูง
- เปลือก
เป็นยาแก้บวม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ มีหนอง
ตำรายา :
ตำรายา :
1. แก้ร้อนใน
ไข้สูง หรือไตอักเสบเรื้อรัง : ใช้ฟัก 500 กรัม
ต้มน้ำให้ได้ประมาณ 3 แก้ว แบ่งกิน 3 ครั้ง
ใน 1 วัน
2. สตรีเบาขัดในระหว่างตั้งครรภ์
: คั้นน้ำฟัก 1 แก้ว ผสมน้ำผึ้งให้พอมีรสหวาน ดื่มบ่อยๆ
3. ผิวหนังมีอาการแพ้เป็นผด:
ต้มเปลือกฟัก ล้างบริเวณที่เป็น
4. ผลัดตกหกล้ม
เอวเคล็ด : ใช้เปลือกฟักผิงไฟให้แห้ง บดเป็นผงผสมเหล้ากินครั้งละ 6 กรัมจะช่วยลดความเจ็บปวดได้
5. ไตอักเสบบวมน้ำ
: ใช้เปลือกฟัก 120 กรัม หนวดข้าวโพด 30 กรัม ต้มกิน แบ่งน้ำที่ต้มได้เป็น 3 ส่วน กินใน 1
วัน
6. ไออักเสบเรื้อรัง
: ใช้เมล็ดฟัก 15-30 กรัม ต้มกินน้ำ
7. ระดูขาว :
ใช้เมล็ดฟัก 30 กรัม บดเป็นผง เติมน้ำตาลกรวด 30 กรัม ตุ๋นกินวันละ 2 ครั้ง
8.เบาหวาน :
ให้ต้มฟักที่ปลอกเปลือกแล้ว ต้มน้ำกินครั้งละ 60-90 กรัมเป็นประจำ
จะทำให้เบาหวานลดลง
9.ริดสีดวงทวาร
: อาการอักเสบเจ็บบริเวณทวารหนัก ให้ต้มฟักแล้วเอาน้ำล้างจะลดการอักเสบลงได้
http://www.thaihealth.or.th/Content/33140-%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81%20:%20%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%20%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/441141725970466769/
No comments:
Post a Comment