Sunday, October 12, 2014

น้ำมันมะพร้าว น้ำมะพร้าว กะทิ อย่างไหนดีกับสุขภาพที่สุดนะ




         น้ำมะพร้าว กะทิ น้ำมันมะพร้าว ก็มาจากมะพร้าวเหมือนกัน แต่เราใช้อย่างไหนถึงจะดีต่อร่างกายที่สุด ไปคลายข้อสงสัยข้อนี้กันค่ะ

          เรานำมะพร้าวมาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำน้ำมะพร้าวมาดื่มเพื่อความสดชื่น สกัดน้ำมันมะพร้าวออกมาใช้บำรุงผิวพรรณ รับประทานเพื่อสุขภาพ และคั้นกะทิออกมาใช้ทำอาหารหรือขนมต่าง ๆ ส่วนเนื้อก็นำไปทำเป็นขนมได้เช่นกัน เช่นเดียวกับเปลือกที่ใช่ว่าเราจะปล่อยทิ้งให้เปล่าประโยชน์ เพราะก็มีหลายคนนำเปลือกมะพร้าวมาใช้ในการทำสวนหรือทำเป็นสิ่งของเครื่อง ประดับต่าง ๆ

          แต่ว่าเคยสงสัยกันไหมคะว่า เจ้าน้ำมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว กะทิ นี่มันมีสรรพคุณแตกต่างกันอย่างไร ก็ในเมื่อมันก็ออกมาจากมะพร้าวเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เว็บไซต์ wellnesstoday.com ได้นำมาอธิบายเอาไว้แล้วล่ะค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าของเหลวจากมะพร้าวทั้งสามชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

น้ำมะพร้าว

          น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันมานาน เพราะจะมีอะไรทำให้สดชื่นในเวลาเหนื่อย ๆ ได้ดีเท่าน้ำมะพร้าวอีกล่ะ ซึ่งในปัจจุบัน น้ำมะพร้าวก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่ฮิตกันในหมู่คนที่ชอบออกกำลังกายและเล่น โยคะ เพราะในน้ำมะพร้าวมีแร่ธาตุและเกลือแร่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียมที่มากกว่ากล้วยหอมลูกขนาดกลางถึง 2 เท่า ระดับโซเดียมที่ดีต่อสุขภาพ แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และสังกะสี

          แต่ก็อย่ามัวแต่มองว่ามันมีประโยชน์เพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะน้ำมะพร้าวเพียงหนึ่งแก้ว (ประมาณ 237 มิลลิลิตร) ก็ให้พลังงานถึง 45 แคลอรี่ ดังนั้นถึงจะดื่มได้ แต่ก็อย่าดื่มเยอะเกินไปนะคะ ไม่งั้นล่ะอ้วนแน่ ๆ เลย

 
กะทิ

          กะทิ เป็นวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการทำอาหารและขนมไทยหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มัสมั่น แกงเผ็ด ต้มกะทิต่าง ๆ หรือแม้แต่ขนมหวาน อย่างเช่น แกงบวดต่าง ๆ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้อาหารหอม มัน น่ารับประทาน แต่เจ้ากะทินี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไร เพราะไขมันที่อยู่ในกะทิ เป็นไขมันอิ่มตัว และไขมันชนิดนี้ก็เป็นไขมันที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

          โดยกะทิเพียงหนึ่งถ้วยก็ให้ปริมาณแคลอรี่ถึง 445 แคลอรี่ และมีไขมันถึง 48 กรัม แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีประโยชน์เสียทีเดียว เพราะยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าไขมันที่อยู่ในกะทิก็สามารถช่วยทำให้ความดัน ในเลือดลดลงได้เช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ยืนยันได้ ดังนั้นทางที่ดีก็รับประทานกะทิให้น้อย ๆ หน่อยจะดีกว่านะคะ


น้ำมันมะพร้าว

          ถ้าจะบอกว่าน้ำมันมะพร้าวเปรียบเสมือนน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ก็คงไม่ผิด เพราะน้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณเกี่ยวกับความงามมากมาย ทั้งบำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์ ใช้หมักผมก็ทำให้ผมเงางามและอื่น ๆ ซึ่งน้ำมันมะพร้าวก็เหมือนกับกะทิคือสกัดมาจากเนื้อมะพร้าว แต่น้ำมันมะพร้าวนั้นสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปี โดยไม่เน่าเสียต่างจากกะทิที่เก็บไว้ไม่ได้นาน และถึงแม้น้ำมันมะพร้าวก็มีไขมันอิ่มตัวที่ไม่ค่อยดีกับสุขภาพนัก แต่มันก็เป็นส่วนผสมชั้นเลิศของอาหารหลายชนิดเช่นกัน เอาเป็นว่ารับประทานน้ำมันมะพร้าวแต่น้อยจะดีกว่าค่ะ

 
          ผลิตภัณฑ์ จากมะพร้าวทั้ง 3 ชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้อย่างไร ซึ่งถ้าหากเราเลือกกินเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมละก็ รับรองว่าได้รับผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment