Monday, September 22, 2014

แค่ออกกำลังกาย ก็ระบายอารมณ์ได้แล้วนะ!




         ในชีวิตมีปัจจัยหลายต่อหลายสิ่ง ที่ส่งผลต่อสภาวะอารมณ์และจิตใจ ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกโกรธ โมโห เศร้า เสียใจ หรือมีความสุขก็ได้ แต่หากอยู่ในโหมดอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก มันก็คงบั่นทอนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราไปได้ไม่น้อย

          ดังนั้นคงจะดีกว่า ถ้าเรามีวิธีดี ๆ สำหรับจัดการอารมณ์ที่ไม่ดีให้กลับมาเป็นปกติได้ง่าย ๆ ด้วยการออกกำลังกายทั้ง 12 อย่างต่อไปนี้จาก livestrong.com เอาล่ะ มาจัดการอารมณ์พร้อมกับบริหารร่างกายให้แข็งแรงกันเลยดีกว่า

1. ชกมวยไล่อารมณ์โกรธ

          อารมณ์โกรธเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และหากเกิดขึ้นกับใครก็คงหงุดหงิดวุ่นวาย ไม่เป็นอันทำอะไรแน่ ๆ ดังนั้นเรามาระบายความโกรธออกไปด้วยการชกมวยกันดีกว่า เพราะนักจิตวิทยาและนักกายภาพได้บอกว่า เวลาที่เราโกรธ ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมา ทำให้เรามีพลังมากกว่าปกติ และวิธีที่จะระบายความโกรธออกมาได้ดีที่สุด ก็คือการชกมวย หรือการชกกระสอบทรายนั่นเอง เอาล่ะ โกรธอะไรมาก็ชกไปแรง ๆ ที่กระสอบทรายเลยค่ะ ถือซะว่าเป็นการฟิตร่างกายให้แข็งแรงไปด้วยในตัวเลย

 
2. ออกกำลังแบบ H.I.I.T ลดความกดดัน

          เมื่อรู้สึกกดดันกับสภาวะต่าง ๆ ที่เจอ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์กายภาพก็แนะนำให้เปลี่ยนพลังกดดันมาออกกำลังกาย แบบ H.I.I.T (High Intensive Interval Training) หรือการออกกำลังแบบความเข้มข้นสูงเป็นช่วง ๆ ซึ่งการออกกำลังกายชนิดนี้ก็มีหลักอยู่ว่า หลังจากวอร์มร่างกายประมาณ 5 นาทีเรียบร้อยแล้ว ให้ออกกำลังกายโดยออกแรงอย่างเต็มที่ประมาณ 8 วินาที จากนั้นก็ค่อย ๆ ผ่อนแรงลงมาเรื่อย ๆ อีกประมาณ 12 วินาที และผ่อนแรงขึ้นลงอย่างนี้นานต่อเนื่องเป็นเวลา 10-20 นาที เสร็จแล้วก็คูลดาวน์ร่างกายอีก 5 นาที เทคนิคการออกกำลังกายแบบนี้สามารถใช้ได้กับการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และกีฬาชนิดอื่น โดยวิธีนี้นอกจากจะทำให้หัวใจสูบฉีดแรงขึ้นในทุกครั้งที่เร่งจังหวะการออก กำลังกายแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์คุณเย็นลงในทุกครั้งที่ผ่อนแรงออกกำลังกายด้วยล่ะ

3. สับสนฟุ้งซ่าน หายได้ด้วยการยกเวท

          ในสภาวะที่ใจว้าวุ่นเช่นนี้ ให้ลองยกเวทดูสิ เพราะการศึกษาของ Archives of Internal Medicine เขาพบว่า ผู้หญิงที่มักจะมีอารมณ์สับสนวุ่นวาย สามารถแก้อารมณ์เหล่านี้ให้มั่นคง และเป็นคนมีเหตุผลขึ้นได้ด้วยการยกเวท เนื่องจากการยกเวท จะทำให้เรามุ่งสมาธิไปที่แรงถ่วงบนแขน และทิศทางการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการไล่เรียงลำดับความคิดที่สับสนวุ่นวายอยู่ให้เป็นระเบียบขึ้นนั่น เอง

 
4. เดินออกกำลังให้หายวิตกกังวล

          มีการวิจัยด้านสุขภาพที่แสดงว่า การเดินออกกำลังเป็นการออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดความตึงเครียดในบุคคล และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นหากรู้สึกวิตกกังวล หรือไม่มีความมั่นคงในอารมณ์เท่าไร ก็เปลี่ยนมาใส่รองเท้าผ้าใบแล้วออกเดินไปในสวนสาธารณะ หรือรอบ ๆ หมู่บ้านดูดีไหมคะ สูดอากาศดี ๆ เข้าปอดพร้อมกับการย่างเท้าเดินช้า ๆ อย่างเป็นจังหวะ ไม่แน่ว่าอาจจะช่วยให้คุณเลิกวิตกกังวลและเกิดไอเดียดี ๆ ขึ้นบ้างก็ได้

5. เพิ่มพลังชีวิตด้วยการรำไท่เก๊ก

          วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้าหมดแรง ก็อย่าเพิ่งให้ร่างกายได้ออกแรงทำอะไรมาก แต่มาออกกำลังแบบเบา ๆ ด้วยการรำไท่เก๊กดีกว่า เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าขึ้นแล้ว การรำไท่เก๊กยังช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น ลดระดับความเครียดในร่างกาย ช่วยรักษาระดับอารมณ์ให้คงที่ และช่วยให้ไม่เหนื่อยง่ายอย่างเดิมด้วยค่ะ

6. ออกกำลังกายเป็นกลุ่ม ลดความเหงา

          ไม่ว่าจะเป็นการแอโรบิก การรำไท่เก๊ก หรือการไปคลาสเต้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการออกกำลังกายแบบกลุ่ม ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตามาออกกำลังด้วยกัน ดังนั้นหากรู้สึกเหงาขึ้นมาเมื่อไร ก็อย่านั่งโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวให้ฟุ้งซ่านไปเปล่า ๆ แต่ออกมาร่วมกิจกรรมออกกำลังกายเหล่านี้ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้พบปะผู้คนและได้ฟิตหุ่นแล้ว การออกกำลังกายกันเป็นกลุ่มแบบนี้ ยังช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการออกกำลังกาย และทำให้ร่างกายเกิดความฮึกเหิมและเบิร์นพลังงานได้มากกว่าปกติอีกด้วย

7. ปั่นจักรยานกำจัดความเครียด

          ลองปั่นจักรยานออกไปในทุ่งกว้าง หรือในสวนสาธารณะในวันที่คุณรู้สึกเครียดกับสถานการณ์บางอย่าง หรือคิดงานจนหัวจะแตกก็คิดไม่ออก รับรองเลยว่ามันสามารถช่วยให้ความเครียดที่คุณมีอยู่ลดลงได้ไม่ยาก เพราะในขณะที่เราปั่นจักรยานออกไปตามทาง เราจะได้พบเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นคน ต้นไม้ ลำธาร ทุ่งกว้าง ดอกไม้ ก้อนหิน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ริมทางเหล่านี้จะดึงคุณออกจากความคิดและจิตใจที่หมกมุ่นอยู่กับความเครียด ไปยังสภาพแวดล้อมรอบกาย และการออกกำลังกายก็จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน จนบางทีก็อาจจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่สามารถเปลี่ยนความเครียดให้เป็นปัญญาได้ด้วย  ยิ่งถ้าได้ปั่นไปในหาทางที่ท้าทาย เช่น ปั่นขึ้นเขา คุณก็จะยิ่งมีสมาธิกับความท้าทายตรงหน้า จนเรื่องที่เครียดอยู่หลุดหายจากห้วงความคิดไปอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ

 
8. วิ่ง วิ่ง วิ่ง ให้ไอเดียกระฉูด

          การที่ร่างกายได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำกันไปมา โดยเฉพาะการวิ่งที่เป็นกิจกรรมที่ไม่ได้มีความซับซ้อน และไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมาย จะทำให้สมองผ่อนคลาย หลุดออกจากความกดดัน และร่างกายก็จะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีไอเดียดี ๆ เกิดขึ้นได้ในขณะที่วิ่ง ดังนั้นจึงเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะมากกับคนที่กำลังรู้สึกมืดแปดด้าน คิดอะไรไม่ออกนั่นเองค่ะ

9. กังวลเกินเหตุ แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยโยคะ

          โยคะเป็นการออกกำลังกายที่จะทำให้มีสมาธิ และทำให้จิตอยู่กับความเป็นปัจจุบัน นั่นก็หมายถึงว่า จะทำให้คุณลดความกังวลในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นได้ และการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ก็จะช่วยให้คุณได้ฝึกลมหายใจ ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง หลุดพ้นจากความกลัวทุกสิ่งอย่าง

 
10. วิ่งขึ้นบันได สร้างแรงบันดาลใจ

          หากรู้สึกว่าไม่มีแรงบันดาลใจในการทำอะไรสักอย่าง ชีวิตก็คงขาดความกระตือรือร้นน่าดู ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกสีเทาอย่างนี้ แล้วออกวิ่งขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ให้เหงื่อออกสักหน่อยดีกว่า เพราะการวิ่งขึ้นบันได ก็เหมือนการปีนขึ้นไปยังเป้าหมาย ซึ่งเราอาจจะยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป้าหมายที่กำลังพยายามปีนขึ้นไปให้ถึง นั้นคืออะไร แต่การออกวิ่งไปให้ถึงข้างบนสุดจะทำให้คุณรู้สึกดีว่าได้บรรลุเป้าหมาย บางอย่างแล้ว แถมยังทำให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว มีพลังออกไปทำอะไรได้อีกมากมายเลยด้วย

11. เต้นกระจายให้ความเศร้าหายไป

          แน่นอนว่าถ้ารู้สึกเศร้า เป็นใครก็คงไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพก็ยังแนะนำว่า ในเวลาที่รู้สึกเศร้า จงพยายามเปิดเพลงแล้วเต้นไปรอบ ๆ อย่างที่ใจต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าท่าทางที่เต้นจะเป็นอย่างไร และเราจะเต้นถูกจังหวะไหม เพราะเราเพียงแค่จะอาศัยจังหวะดนตรีและสารเอ็นดอร์ฟินที่หลั่งออกมาในขณะที่ ร่างกายมีการออกกำลัง เพื่อทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจากอาการเศร้าเท่านั้นเอง

12. ไฮเปอร์อยู่ไม่สุข เต้นซุมบาดูสิ

          ถ้าคุณรู้สึกว่าร่างกายมีพลังงานเหลือเฟือ แล้วไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไรให้หายลุกลี้ลุกลนล่ะก็ลองไปเข้าคลาสเต้นซุมบา (Zumba) ดูสิ เพราะจังหวะการเต้นซุมบาจะช่วยรีดพลังงานส่วนเกินของคุณออกมาใช้งานได้อย่าง เหมาะสม และทำให้เหงื่อออกได้มาก ช่วยลดพลังการตื่นตัวคุณได้อย่างดีเลยล่ะ

          ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน ก็ลองเปลี่ยนพลังของอารมณ์นั้น ๆ ออกมาใช้กับการออกกำลังกายดีกว่านะคะ ดีทั้งต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายเลยด้วย

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment