Sunday, August 3, 2014

การเลือกกินผลไม้ สำหรับสาว ๆ ที่กำลังลดน้ำหนัก




         เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "ผลไม้" นั้นมีประโยชน์กับร่างกาย ทั้งช่วยในเรื่องของวิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ รวมถึงเกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย เนื่องจากมีใยอาหาร และให้พลังงานที่ดีกับร่างกาย นอกจากนั้นแล้วยังมีหลายรสชาติ ความอร่อย อีกต่างหากนะคะ

          แต่ผลไม้มีรสหวานตามธรรมชาติ ซึ่งรสหวานนั้นก็ชวนให้ใครหลายคนติดใจความหวานนั้น และความหวานนี้ก็คือน้ำตาลธรรมชาติที่อยู่ในผลไม้นั่นเอง ที่นี้ความหวานหรือน้ำตาลมักเป็นอุปสรรคของคนที่เป็นเบาหวาน เพราะต้องระมัดระวังปริมาณน้ำตาลในร่างกาย ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานจึงควรกินผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เกณฑ์โดยทั่วไปสำหรับคนที่เป็นเบาหวานสามารถกินผลไม้ได้ ครั้งละ 1 ส่วน / มื้ออาหาร นอกจากนั้นผลไม้หลายชนิดกินแบบสด ๆ แล้ว ยังนิยมทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม เพื่อความสดชื่นและแก้กระหายด้วย คนเป็นเบาหวานสามารถดื่มน้ำผลไม้ได้เช่นกัน เพียงแต่ดื่มให้พอเหมาะ อย่าติดใจในรสชาดจนดื่มเพลินมากเกินไป

          สำหรับ สาว ๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักไปกับการทานผลไม้หรือน้ำผลไม้นั้น ก็ควรเลือกผลไม้ที่มีค่าของน้ำตาลน้อยและกากใยสูง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการทาน เพราะหากเพลินกับการทานผลไม้ โดยไม่ได้นึกถึงสิ่งนี้ แทนที่จะผอม คาดว่าสาว ๆ คงต้องอ้วนเป็นแน่เลยค่ะ

          และผลไม้ที่สามารถเป็นตัวช่วยให้สาว ๆ ได้รับวิตามินอันสูงสุด รวมถึงกากใยอาหาร และทำให้ไม่อ้วน มีดังนี้ค่ะ

1. ฝรั่ง

          ซึ่งถือเป็นสุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี และยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย

 
2. แตงโม

          สำหรับ แตงโมนั้น อาจจะดูมีรสชาติที่หวานฉ่ำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อ้วนหรอกนะคะ เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากเกินไปด้วยนะคะ

 
3. ส้ม

          ส้ม ก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีประโยชน์ แต่ประโยชน์นั้นต้องอยู่ตรงที่กากใยของมันนะคะ สาวๆ อย่าแกะมันออกเป็นอันขาดเลยค่ะ เพราะนั่นแหล่ะคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม ถือเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ

 
4. มะละกอ

          มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย และยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้

 
5. แก้วมังกร

          แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้สาว ๆ อิ่มท้องได้ง่าย ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็นหรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง

 
6. กีวี

          อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย

 
7. เกรปฟรุต

          สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต"ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรี่ต่อวัน แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้น

 
8. เบอร์รี

          ผลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี, แบล็กเบอร์รีและราสเบอร์รี เต็มไปด้วนสารอาหารและมีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ เช่นมะม่วงหรือกล้วย นั่นคือเหตุผลที่ผลเบอร์รีมักถูกยกย่องให้เป็นผลไม้เผาผลาญไขมันที่ดี ผลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีแคลอรี่ต่ำแถมยังหวานแบบมีประโยชน์ เส้นใยในผลเบอร์รีช่วยให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน และยังมีวิตามินแร่ธาตุ สารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

 
9. สตรอว์เบอร์รี

          สตรอว์เบอร์รี ผลไม้สุดโปรดของใครหลายคน ซึ่งมีแคลอรีเพียง 50 แคลอรี และ มีน้ำตาล 7 กรัม เท่านั้น แต่มีเส้นใยอาหารถึง 3 กรัม แต่สิ่งที่สุดยอดเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี (และผลเบอร์รีทั้งหมด) คือ มันตอบสนองความต้องการของหวานและน้ำตาลของสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย

 
10. อะโวคาโด

          หลายคนอาจไม่รู้จักผลไม้ชนิดนี้ อะโวคาโด คือผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมในแถบทวีปอเมริกาและยุโรป เพราะมันมีสารอาหารสูงและหลากหลายมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่บางคนอาจไม่ชอบ เพราะมันไม่หวาน แถมมีไขมันสูง กินแล้วอาจอ้วนได้ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิด กรดไขมันในอะโวคาโดเป็ดกรดไขมันที่ดี คืออะโวคาโดมันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันร้ายในหลอดเลือด ทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และหัวใจวายลดลงได้ค่ะ

 
          สำหรับ น้ำผลไม้ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่จะสามารถช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ เพราะบางน้ำผลไม้ อย่างเช่น ตามร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปนั้น น้ำผลไม้จะถูกปรุงแต่งด้วยวัตุดิบหลากหลายอย่าง บ้างเป็นสารเคมี บ้างก็เป็นน้ำตาล เพื่อให้น้ำผลไม้ที่ผลิตออกมามีความอร่อยมากยิ่งขึ้น และเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าผลไม้ที่เหล่าผู้ผลิตใช้นั้นมีสภาพเป็นอย่างไร สดหรือเปล่า ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพหรือไม่ ดังนั้นนอกจากเราจะแบกรับความอ้วนที่มาจากสารเติมแต่งต่าง ๆ แล้ว เรายังต้องแบกรับความเสี่ยงของคุณภาพของน้ำผลไม้อีกด้วย

          เพราะฉะนั้นหากเราสามารถทำน้ำผลไม้เองได้ที่บ้านก็คงจะเป็นผลดี มั่นใจว่าปลอดภัย ไร้สารปรุงแต่ง และช่วยให้เราลดน้ำหนักได้เป็นแน่

       
สูตรที่ 1 วัตถุดิบ : แอปเปิลขนาดกลาง 5 ลูก, คื่นช่าย 2 ก้าน, ส้ม 2 ลูก

       
สูตรที่ 2 วัตถุดิบ : แอปเปิลขนาดกลาง 4 ลูก, กะหล่ำปลี ¼ หัว, มะนาว 1 ลูก

       
สูตรที่ 3 วัตถุดิบ : แอปเปิลขนาดกลาง 3 ลูก, คื่นช่าย 2 ก้าน, แตงกวา 1 ลูก, มะนาว 1 ลูก, ขิงขนาด 1 นิ้วโป้ง

        วิธีทำของทุกสูตรก็ไม่ยากนะคะ เพียงแค่นำส่วนผสมทุกอย่างใส่เข้าเครื่องทำน้ำผลไม้ โดยที่ไม่ต้องใส่เติมแต่งอะไรเข้าไปเพิ่ม เราจะได้คุณประโยชน์จากผลไม้นั้นล้วน ๆ เลย ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับ คือ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยลดความดันเลือด ช่วยลดคลอเรสเตอรอล และช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้นอีกด้วย

แหล่งที่มา  woman plus, http://health.kapook.com/view93431.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment