Tuesday, May 6, 2014

อาหารเช้า แสนฉลาด




        อาหารเช้านั้นสำคัญมากเหลือเกิน เพราะมันจะให้พลังงานแก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ทั้งวัน นอกจากนี้แล้ว ถ้าเราเลือกประเภทอาหารมาเป็นอาหารเช้าให้ดีแล้ว มันจะมีผลต่อสมองหรือความฉลาดของเราด้วยนะเออ เขาพิสูจน์มาแล้วว่า การทานอาหารเช้าที่มีคุณภาพ จะมีผลต่อความกระฉับกระเฉงของร่างกาย ระบบความจำ ทักษะการเรียนรู้ และอารมณ์ด้วยนะ เอ้า...ใครอยากฉลาด หนทางง่าย ๆ ทางนี้จ้า

        
 ผลไม้สด

 
         
เดี๋ยวนี้อาหารเช้าที่มีแต่ผลไม้สด ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เขาฮิตทานกัน มีงานวิจัยบางชิ้นสนับสนุนการทานผลไม้สดเป็นอาหารเช้า นั่นเป็นเพราะว่าผลไม้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่, มะนาว, ส้ม, แอปเปิ้ล จะเต็มไปด้วยวิตามินซีที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมองของเรา แต่ถึงแม้ผลไม้จะดีอย่างไรก็ตาม เราก็ควรทานร่วมกับอาหารพวกแป้งด้วยจะดีกว่า อาจจะเป็นเมล็ดธัญพืช, ขนมปังปิ้ง, ซีเรียล

         
 ประเภทปลา

 
         
อาหารเช้าแบบปลา ที่บางคนมักจะบ่นและเลี่ยงไม่ชอบ เพราะออกจะคาวนี่แหละสำคัญมาก อย่างปลาซาดีนกระป๋องก็ดี หรือจะปลาทูทอด อย่างหรูก็ปลาแซลมอนรมควัน พวกนี้อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่มีมากในปลา ช่วยสมองได้ดีทีเดียว

         
 ไข่

 
         
มีคนอยากผอมหลายคนนะ  ที่กลัวกลั๊วกลัวไข่กันเหลือเกิน ต้องมีการจำกัดว่าต้องทานเท่าไร บางคนนะเลิกทานไปเลย เป็นซะอย่างนั้น แต่ถ้าได้ดูจากข้อมูลต่อไปนี้แล้วคงต้องเปลี่ยนใจ เพราะในไข่ฟองหนึ่งจะประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายอย่าง เช่น ซิงค์, วิตามินบี 12 และวิตามินบีรวมอีกมากมาย จะช่วยให้ความจำดีขึ้น แถมยังไปช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอของสมองอีกด้วยนะ แต่ไม่ใช่ว่ารู้อย่างนี้แล้วรีบตักไข่ใส่ปากใหญ่เลยล่ะ เพราะเขามีโควต้าว่า ถ้าจะให้ดีควรทานไม่เกิน 3 ฟองใน 1 อาทิตย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อระดับโคเลสเตอรอลแต่เนิ่น ๆ

         
 โยเกิร์ต

 
         
ใครที่เลือกทานโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้ายกมือขึ้น!!! คุณฉลาดมากที่เลือกทานโยเกิร์ต เพราะว่าเต็มไปด้วยโปรตีนสูง จำพวกกรดอะมิโน เป็นผลดีต่อเซลล์ในร่างกาย อีกทั้งยังมีประโยชน์ลึก ๆ ที่จะต้องทำให้คุณพอใจ นั่นก็คือ โยเกิร์ตมีผลทำให้ร่างกายไม่อยากอาหารจำพวกของขบเคี้ยวได้ด้วย

         
 ซีเรียลแท่ง

 
         
แท่งที่เหมือนขนม แต่อุดมไปด้วยสารอาหารดีเยี่ยมที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ยังชอบทาน ความเป็นจริงก็คือมันไม่ค่อยได้ให้ประโยชน์ต่อสมองมากเท่าไร และยังมีน้ำตาลเยอะ ถึงแม้จะทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แต่พลังงานก็จะหมดไปเร็วเหมือนกัน ถ้าเลือกจะทานซีเรียลแท่งเป็นอาหารเช้า ก็ควรจะใส่ผสมลงในโยเกิร์ตหรือนมสด ก็จะช่วยเพิ่มโปรตีนได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนจะมีประโยชน์ต่อสมองเพิ่มขึ้น

         
 ขนมปังปิ้ง

 
         
อาหาร ของฝรั่งอีกอย่าง ที่ดูเหมือนจะเป็นที่คุ้นเคยกับปากคนไทยอย่างเราไปแล้ว ถึงแม้ขนมปังปิ้ง 2-3 ชิ้นจะไม่คณาท้องไปจนถึงเที่ยง (อันนี้สำหรับบางคน) แต่มันให้คุณค่าทางอาหารที่พอใช้ได้เหมือนกันนะ ยิ่งถ้าเป็นขนมปังแบบโฮลวีทพวกนี้ยิ่งดีใหญ่ ให้ทั้งสารอาหารซิงค์และธาตุเหล็ก พร้อมทั้งวิตามินบีรวมอีกเพียบให้ทั้งพลังงานและอาหารสมองอย่างดี ทานควบคู่ไปกับอาหารโปรตีนด้วย อย่าง นม, ไข่, ชีสรสโปรดสุดชอบ แต่อย่าลืมต้องไขมันต่ำ หรือจะครีมบัตเตอร์พีนัท (มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป) จะช่วยลดความหิว มือจะได้ไม่ต้องเผลอไปหยิบขนมขบเคี้ยวก่อนถึงอาหารเที่ยง

         
 ข้าว

 
         
ไม่ต้องพูดมากเกี่ยวกับข้าว เพราะตั้งแต่เด็กไทยอย่างเรา ๆ เห็นและทานกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เชื่อไหมว่ากว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกทานข้าวเป็นอาหารหลัก ซึ่งข้าวมีคุณสมบัติช่วยให้ระบบการย่อยของร่างกายทำงานเป็นปกติด้วย ส่วนใครที่อยากได้ประโยชน์จากข้าวเต็ม ๆ ล่ะก็ เลือกทานข้าวซ้อมมือ จะได้วิตามินเพิ่มอีกเพียบ เมนูข้าวอาจจะเป็น ข้าวราดกะเพราไก่-ไข่ดาว รวมพลังงานที่ร่างกายได้รับยังสูสีกับอาหารเช้าแบบฝรั่งที่เทียบกันแล้ว ข้าวไทยเราอิ่มกว่าเยอะ

         
 ว่างเปล่า

         
เป็นพวกประเภทไม่ยอมทานอาหารเช้า เพราะกลัวอ้วนหรืออย่างไรไม่ทราบได้ จากสถิติเขาบอกว่า 90% ของเด็ก มักจะทานอาหารเช้าเป็นประจำอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนผู้ใหญ่ที่ทานอาหารเช้ามีจำนวนประมาณ 77% อยากจะบอกว่าการทานอาหารเช้าเนี่ยดี เพราะถ้ายังติดนิสัยทานอาหารเที่ยงเป็นมื้อเช้าแล้วล่ะก็ จะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานน้อยลง ซึ่งจะทำให้สมองทำงานไม่เต็มที่ ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าที่ควร


          เห็นไหมล่ะว่า อาหารเช้ามีประโยชน์ช่วยควบคุมความหิว และไม่ทำให้เอวคุณขยายออกจนสวมกระโปรงไม่ได้หรอกน่า นอกจากนี้ยังจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น หรือไม่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คุณเป็นลมก่อนเวลาอาหารเที่ยง แล้วจะมัวไม่ทานอาหารเช้าอีกไปใย จริงไหมจ๊ะ


แหล่งที่มา  เธอกับฉัน, http://health.kapook.com/view5586.html

No comments:

Post a Comment