Friday, April 4, 2014

ไม่อยากแก่เกินวัย อย่าทำ 18 เรื่องนี้เด็ดขาด




     เสื้อผ้าและเครื่องสำอางอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพของคุณให้ดูดี และเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสไตล์การแต่งตัวของคุณได้ดีที่สุด แต่ทว่าการแต่งกายที่รุ่มร่ามหรือสั้นจนเกินไป ซึ่งอาจเป็นการแต่งกายผิดกาลเทศะ หรือแม้แต่การแต่งหน้าเข้มจัดจ้าน ก็อาจสร้างริ้วรอยให้กับใบหน้าของคุณได้ และที่สำคัญผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้อัพเดทแฟชั่น ดังนั้นจึงทำให้พวกเธอติดอยู่กับแฟชั่นเดิม ๆ งานนี้เพื่อต้องการให้คุณสาว ๆ สวยเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า แจน พิ้งค์ เมคอัพเซเลบริตี้ชื่อดังชาวอเมริกา จึงได้ออกเผยให้ทราบถึง 18 รูปแบบของการแต่งองค์ทรงเครื่อง ที่อาจสร้างผลเสียให้กับคุณสาว ๆ ได้โดยไม่รู้ตัว

  
1. แต่งตัวอินเทรนด์เกินไป

          หากคุณค่อนข้างมีฐานะ และคุณก็เป็นคนหนึ่งที่มองแฟชั่นได้ทะลุปรุโปร่ง และดูเหมือนว่าจะมาแรงสุด ๆ ในช่วงนั้น เอเลนนา เคเล็น เซเลบริตี้สไตลิสต์แห่งมหานครนิวยอร์ก แนะนำว่า "เพราะแฟชั่นเสื้อผ้านั้นเป็นสิ่งที่มาเร็วไปเร็ว ดังนั้นแนะนำว่าให้คุณสังเกตฉลากที่ระบุวัน-เวลาในการผลิต และแทนที่คุณจะเสียเงินไปกับการช้อปเสื้อผ้าของซีซั่นหน้ามาเก็บไว้ ให้คุณยึดติดกับความคลาสสิก หรือรูปแบบที่ธรรมดาเอาไว้ เพราะเวลาจะเป็นตัวช่วยทดสอบ ว่าเสื้อผ้าที่คุณหมายไว้ว่าจะเชยหรือเอาต์นั่นเอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดหรือตามกระแสไม่ได้ แต่ขอให้อยู่ในเทรนด์หรือซีซั่นที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ เช่น ผ้าหนัง ลายพรางทหาร ลายใบไม้สีเข้ม ลายสกอต และกางเกงเข้ารูป หรือกระโปรงทรงดินสอ มาใส่บ้างก็เก๋ไปอีกแบบคะ"

  
2. อาลัยอาวรณ์เสื้อผ้าเก่า

          หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อดไม่ได้ที่จะหยิบเสื้อผ้าชุดเก่ามาขึ้นใส่ หลังจากที่ได้ทำการโละเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดเก่า เนื่องจากชุดเก่านั้นมีขนาดเล็กเกินไป งานนี้สไตลิสต์คนดังระบุว่า คุณสาว ๆ บางคนที่เจริญอาหารขึ้นจนไม่สามารถจดกระดุมเสื้อหรือกระโปรงชุดเก่าได้นั้น แนะนำว่าให้วางเสื้อผ้าเหล่านี้เอาไว้ซะ หรือนำไปขายให้กับร้านเสื้อผ้ามือสอง แม้ว่าคุณจะเสียเงินซื้อหามาในราคาแพง หรือมีคุณค่าทางจิตใจก็ตาม เพราะมันอาจมีขนาดเล็กจนเกินไป ดังนั้นเมื่อนำมาใส่อาจทำให้ดูไม่ดี

  3. ไว้ผมยาวจนเกินไป

          คุณสาว ๆ ผมยาวคนไหนที่ไม่อยากแก่ฟังทางนี้ แพทย์ผิวหนังมหานครนิวยอร์กให้คำแนะนำว่า "ในขณะที่คุณเริ่มมีอายุและใบหน้าเริ่มตอบลง การไว้ผมยาวมาก ๆ นั้น จะทำให้คุณมีใบหน้าที่สาว แต่คุณจะต้องตัดผมด้านหน้าให้เข้ากับโครงหน้าโดยการสไลด์บาง แล้วปล่อยส่วนที่เหลือให้ยาว เพราะเชื่อกันว่ามันจะช่วยให้คุณมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น"

  
4. กรีดอายไลน์เนอร์เข้มเกินไป

          อย่างที่รู้กันดีว่าการกรีดอายไลน์เนอร์เข้มจนเกินไปนั้นอาจทำความสะอาดยาก กูรูเมคอัพอย่าง แจน พิ้งค์ อธิบายว่า "การที่คุณสาว ๆ มีอายุเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้พวกเธออาศัยการกรีดอายไลน์เนอร์เข้ม ๆ เพื่อสร้างแพรขนที่บางลงให้ดูหนายิ่งขึ้น แต่คุณสาว ๆ หารู้ไหมว่า นั่นยิ่งเป็นการสร้างจุดสนใจให้ผู้พบเห็น โดยเฉพาะริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตาของคุณ" ดังนั้นแทนที่จะป้ายอายไลน์เนอร์สีดำเข้มลงบนเปลือกตาของคุณ ควรเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทา โดยการทาให้น้อยและบางที่สุด และที่สำคัญควรหลีกเหลี่ยงอายไลน์เนอร์ที่เป็นแบบลิควิด แต่เปลี่ยนมาใช้แบบดินสอจะดีที่สุด เพราะบางครั้งการแต่งเปลือกตาเบา ๆ ก็ช่วยอำพรางรอยตีนกาให้กับคุณสาว ๆ หลายคนได้ไม่ยาก

  
5. ผิวสีแทนจนเกินไป

          แม้ว่าการนอนให้แดดอ่อน ๆ เลียผิวนั้นจะช่วยทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ลงชั่วขณะ ดร.กรอสแมนกล่าวว่า "ในความเป็นจริงแล้ว รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์นอกจากจะสร้างเสียหาย โดยทำให้เส้นใยคอลลาเจนเสื่อมคุณภาพ หรือทำลายความยืดหยุ่นในผิวหนังแล้ว แสงแดดยังกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงเม็ดสี ซึ่งทำให้เกิดจุดด่างดำได้อย่างถาวร" ซึ่งถ้าหากไม่รีบป้องกัน ความเสียหายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เพียงข้ามคืน ดร.กรอสแมน กล่าวเสริมว่า "ดังนั้นก่อนออกไปสัมผัสแสงแดดจ้านั้น คุณควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวทุกครั้ง หรือเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมกันแดดด้วยเอสพีเอฟที่ค่อนข้างสูง"

  
6. ปล่อยปละละเลยไม่ทาครีมกันแดดที่มือและหน้าอก

          คุณสาว ๆ หลายคนที่เลือกโบ๊ะครีมกันแดดที่ใบหน้ามากกว่าส่วนอื่น ๆ ฟังทางนี้ เพราะผลการวิจัยในออสเตรเลียเมื่อปีที่ผ่านมาได้ระบุไว้ว่า มือ ลำคอ และหน้าอก เป็นอวัยวะที่ควรได้รับการปกป้องเช่นเดียวกับใบหน้า เพราะสามารถโดนแสงแดดโลมเลีย และเกิดปัญหาจุดด่างดำและรอยเหี่ยวย่นได้ไม่ต่างจากใบหน้า ประกอบกับมีการศึกษาในฝ่ามือของคุณสาว ๆ ชาวออสซี่ ที่ทาครีมบำรุงผิวที่มีเอสพีเอฟกันแดดทุกวันที่มือและหน้าอกนั้น พบว่าอวัยวะดังกล่าวนั้นไม่พบริ้วรอยหรือจุดด่างดำแต่อย่างใด แต่ขณะเดียวกันยังทำให้มือ และหน้าอกของพวกเธอเต่งตึงอ่อนเยาว์ลงกว่า 4 ปี เลยทีเดียว

  7. ใส่เสื้อผ้าที่หลวมหรือแน่นจนเกินไป

          ดร.เจนนิเฟอร์ บรูการ์เนอร์ กล่าวว่า "การสวมเสื้อผ้าที่หลวม แน่น หรือสั้นจนเกินไปนั้น มักก่อให้เกิดความสนใจในเชิงลบเสมอ ขณะเดียวกันการสวมใส่เสื้อผ้าจนอึดอัดก็อาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้สวม ใส่ และถ้าคุณอายุ 80 ปี แต่อยากกระชากวัยด้วยกระโปรงรัดรูปลายมินิเสือดาว ก็จะทำให้ดูมั่นใจเกินความพอดี ยิ่งโดยเฉพาะหากชุดเข้ารูปดังกล่าวรัดติ้วจนเกินงาม" นักจิตวิทยากล่าว

  
8. ไม่สวมเข็มขัด

          การใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างหลวมอาจทำให้คุณรู้สึกสบาย แต่ก็อาจทำให้คุณดูไม่ได้ แต่เข็มขัดช่วยคุณดูดีได้โดยเฉพาะสาวหุ่นไม้เสียบผี ดร.เคเรน กล่าวว่า ถ้าหากว่าคุณเป็นสาวผอมบาง ต้องเลือกแอคเซสเซอรี่ให้แมตช์กับรูปร่างของคุณ เช่น เข็มขัดทรงใหญ่ที่ทั้งหนาและกว้าง เพราะว่ามันจะช่วยทำให้ชุดของคุณดูไม่หลวมจนเกินไป ขณะเดียวกันสาวหุ่นนาฬิกาทราย ก็ควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่มีสีตัดกันบริเวณช่วงเอวเช่นเดียวกัน เพราะมันจะทำให้หุ่นของคุณดูกลมกลืนและเซ็กซี่ มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญทริคนี้สามารถมิกซ์ แอนด์ แมตช์ เข็มขัดทรงโตกับเสื้อโค้ตตัวยาวที่ใส่ในฤดูหนาว แค่นี้สาวผอมแห้งแรงน้อยก็อินเทรนด์ได้ไม่ยากแล้ว

  
9. ทาลิปสติกสีดำเข้ม

          ว่ากันว่าเลือกลิปสติกที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แจน พิ้งค์ กูรูเมคอัพ บอกไว้ว่า "การทาลิปสติกสีเข้มหรือสว่างเกินไปอาจทำให้รอยย่นรอบ ๆ ริมฝีปากปรากฏเด่นชัดขึ้นในขณะที่คุณกำลังยิ้ม" ดังนั้นฉันชอบใช้ดินสอสีกลาง ๆ เขียนขอบปากเพื่อเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก ซึ่งจะดูดีกว่าปล่อยให้ปากดูจืดชืด และหลังจากที่ฉันเขียนริมฝีปาก ก็จะเพิ่มความแวววาวด้วยลิปกลอส อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงจำนวนมากมักชอบคิดว่าการทาลิปสติกให้ติดทนนานนั้นต้องเลือกสีเข้ม เสมอไป แต่ฉันกลับคิดว่าการใช้เพียงลิปกลอสที่ช่วยเพิ่มความมันวาว จะทำให้ริมฝีปากของคุณสาว ๆ ดูนุ่มนวลและมีสุขภาพดีมากกว่า

  10. รองพื้นหนาเตอะ หรือเลือกผิดเบอร์

          บางครั้งการแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้านั้น เครื่องสำอางอาจไม่ใช่ทางออกเสมอ แจน พิ้งค์ อธิบายว่า "การใช้รองพื้นปกปิดริ้วรอยบนใบหน้ามากเกินไป อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้รอยหลุมบนใบหน้าของคุณยิ่งเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เพราะในความเป็นจริงแล้วรองพื้น เพียงแค่ทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนขึ้น แต่ไม่ได้รักษาหรือฟื้นฟูริ้วรอยหลุมนั้นอย่างแท้จริง ซึ่งการที่คุณสาว ๆ มีผิวแห้งเป็นขุยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเธอหันมาพึ่งรองพื้น หรือเลือกที่จะปกปิดริ้วรอยบริเวณใต้ถุงตาด้วยคอนซิลเลอร์ นอกจากนี้ ตัวการสร้างใบหน้าแก่ก่อนวัยโดยที่คุณสาว ๆ ไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่าง การเลือกรองพื้นผิดเบอร์นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรให้ความสนใจ งานนี้กูรูเมคอัพเสนอแนะว่า "คุณสาว ๆ ควรทำการเช็กรองพื้นเป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะสีผิวของคนเราจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้ได้รองพื้นเบอร์ที่แมตช์กับสีผิวของคุณมากที่สุด" หรือไม่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยนั่นเอง

  
11. หลอกตาด้วยเครื่องสำอางสีแดง

          การที่คุณทาแก้มแดงมากเกินไปอาจทำให้คุณดูตลก เพราะนั่นถือว่าเป็นลักษณะของผู้หญิงสูงอายุ แจน พิ้งค์ กล่าวว่า "มียุคหนึ่งที่สาว ๆ มักแอบซ่อนความอายด้วยการทาแก้มสีแดง ดังนั้นหากยุคนี้คุณสาว ๆ คนไหนทาบลัชออนสีเข้มจนเกินไป อาจถูกล้อว่าเป็นคุณยายก็เป็นได้" ดังนั้นหากคุณสาว ๆ ต้องการเพิ่มสีสันให้กับโหนกแก้มเพื่อไม่ให้แดงจนเกินไป แนะนำว่าให้ลองถูบรอนเซอร์เบา ๆ (เครื่องสำอางที่ใช้สำหรับแรเงา หรือสร้างแก้มสีแดงระเรื่อ ซึ่งดูมีมิติและมีสีอ่อนกว่าบลัชออนทั่วไป)

  
12. เลือกอายแชโดว์ประกายเพชรมากเกินไป

          คุณสาว ๆ คนไหนที่อยากดูอ่อนกว่าวัยนั้น ควรหลีกเหลี่ยงการทาอายแชโดว์สีรุ้ง หรือแบบที่มีประกายเพชรแวววาวมากจนเกินไป เนื่องจากประกายเพชรเหล่านี้เน้นริ้วรอยรอบๆ บริเวณดวงตาได้ไม่ต่างจากการป้ายอายไลน์เนอร์สีเข้มเลย แทนที่จะใช้อายแชโดว์ในตลับ ลองเปลี่ยนมาแตะที่ฝาด้านในของเครื่องสำอาง ก็ช่วยให้เปลือกตาของคุณสวยเป็นประกายแบบเบา ๆ ได้แล้ว

    13. ใช้ครีมบำรุงที่ผิดประเภท

          เมื่ออายุของคนเราเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาผิวแห้งเสีย ดังนั้นการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดร.กรอสแมนอธิบายว่า "คนจำนวนมากมักเลือกครีมบำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้าของตัวเอง ดังนั้นหากคุณสาว ๆ ต้องการมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ควรเลือกครีมบำรุงที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน ซึ่งใช้ได้ทันทีหลังอาบน้ำ ขณะเดียวกันก็ควรลดการแต่งหน้าจัด ๆ มากเกินไป เพราะเป็นสาเหตุของปัญหาผิวแห้งและริ้วรอยก่อนวัย และยังเป็นตัวการก่อผิวแห้งเป็นขุยเพิ่มขึ้นอีกด้วย"

  
14. แต่งหน้าบางเบา

          หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการปัดอายแชโดว์ หรือแม้แต่การทาลิปสติกสีเข้มมากจนเกินไปอาจทำให้คุณดูแก่ แท้จริงแล้วยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณมีอายุ จากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกตตี ในปี 2013 บอกเอาไว้ว่า "การทาปากสีอ่อนบวกกับสีคิ้วที่ค่อนข้างอ่อนนั้น บางครั้งอาจทำให้คุณดูสูงวัยได้โดยไม่รู้ตัว" ดังนั้นหากคุณต้องการแต่งหน้าให้ดูดีในสไตล์ธรรมชาตินั้น แจน พิ้งค์ แนะนำว่า "หากคุณทาตาและปากสีเข้ม ควรทาสีคิ้วให้บางเพื่อเบรกสีสันบนใบหน้าไม่ให้มาก หรือมีอายุเกินตัว"

  
15. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าวัยรุ่นมากจนเกินไป

          สาวคนไหนที่ชอบแต่งตัวเหมือนเด็กเพื่อกระชากวัย นั่นถือเป็นความคิดที่ผิด แนะนำว่าคุณควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน เพราะการที่คุณอายุ 50 ปี แต่ใส่เสื้อผ้าของสาววัย 19 นั้น อาจดูไม่ค่อยเหมาะสมหรือดูไม่ดีในสายตาผู้พบเห็น เนื่องจากดูขัดกับอายุจริง และจะยิ่งเป็นการเพิ่มอายุให้ปรากฏชัดยิ่งขึ้น แทนที่จะลดอายุให้น้อยลง

   16. เลือกเครื่องแต่งกายท่อนบนกับท่อนล่างที่ต่างกัน

          ว่ากันว่าการใส่ชุดไพรเวต หรือชุดสวยที่ไม่ใช่ชุดทำงาน ช่วยลดอายุของคุณได้หลายปี แต่ถ้าหากคุณเลือกสวมกางยีนส์สกินนีรัดรูป เพื่อสร้างลุคผอมเพรียว ก็ไม่ควรเลือกเสื้อหรือท่อนบนให้มีลักษณะฟูฟ่อง หรือเสื้อที่ทำจากผ้าชีฟอง หรือไม่ก็พลิกแพลงไปเลย เช่น หากคุณใส่เสื้อพอดีตัว ก็ควรสวมกระโปรงบาน หรือกางเกงขาม้า เพื่อสร้างความสมดุลให้กับรูปร่างของคุณ ซึ่งการแต่งกายดังกล่าวไม่เพียงโชว์บางส่วน ขณะเดียวกันก็ช่วยเก็บบางส่วน เช่น สะโพก ที่ต้นขาที่อวบของคุณสาว ๆ ได้อีกด้วย

  
17. เลือกสีเสื้อผ้าผิดพลาด

          แม้ว่าซีซั่นนี้โทนสีพาสเทลจะมาแรงก็ตาม แต่ถ้าหากคุณเป็นคนขี้เบื่อ อย่างน้อย ๆ คุณควรมีเสื้อผ้าสีเบสิกเหล่านี้เอาไว้ เช่น สีดำ น้ำเงิน เทา มะกอก สีน้ำตาล และสีขาว เพราะมันสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ แต่คงไม่ดีแน่ถ้าคุณตาสีเขียวมรกตแจ่มกับเสื้อผ้าโทนสีอ่อน เพราะนั่นอาจทำให้คุณดูเหมือนโดนชกเบ้าตามาก็เป็นได้ งานนี้ ดร.เคเรน กูรูแฟชั่น กล่าวเสริมว่า "แทนจะมิกซ์ แอนด์ แมตช์เสื้อผ้ากับเครื่องสำอาง ลองเปลี่ยนมาใช้ตัวช่วยมาเป็นต่างหู หรือใช้รองเท้าส้นเข็มจะดีกว่า"

  
18. การมองข้ามเรื่องดวงตา

          คนรู้หรือไม่ว่าผิวรอบดวงตาเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีแนวโน้มว่าเทรนด์ปัญหาริ้วรอยใต้ตาเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยสำหรับ ผู้หญิงทุกคน ดร.กรอสแมน กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันจะมีครีมลดเลือนใต้ตาให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ แต่ทว่ามันอาจสร้างผลเสียหรือก่อให้เกิดอันตรายบริเวณดวงตาให้กับคุณได้ถ้า ใช้มากจนเกินไป เช่น การถู การกระทุ้ง เพราะพฤติกรรมเหล่านั้นอาจทำให้เกิดผื่นแดง หรืออาจเกิดรอยเหี่ยวย่น หรือเกิดถุงใต้ตาได้โดยที่อายุยังน้อย ดังนั้นคุณสาว ๆ ควรล้างเมคอัพที่ติดอยู่บริเวณดวงตาให้สะอาดก่อนเข้านอน โดยการน้ำยาเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ชุบผ้าขนหนูถูเบา ๆ หลีกเหลี่ยงการเช็ดชูด้วยผ้าหยาบแรง ๆ เพราะอาจทำให้บริเวณรอบ ๆ ดวงตาเกิดริ้วรอยได้ง่าย

แหล่งที่มา  ไทยโพสต์, http://women.kapook.com/view84971.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment