Saturday, June 29, 2013

10 อาหารเช้าที่ให้พลังงานและ4 อาหารเช้าต้องห้ามที่คุณควรเลี่ยง


อาหารเช้าถือเป็นหนึ่งมือสำคัญ ที่ต้องรับประทาน เพื่อที่จะได้พลังงาน ไว้เผาพลาญในการใช้ชีวิต

     1. ไข่  

เพราะไข่ให้พลังงานสูง และมีแคลอรี่ รวมทั้งมีสารอาหารที่สำคัญมากกว่า 13 ชนิด รวมไปถึงวิตามินและสังกะสี และช่วยระบบคุ้มกัน และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ

     2. ข้าวโอ๊ตบด 

ข้าวโอ๊ตถือว่ามีวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งเส้นใยโปรตีน และให้พลังงานอย่างสูง และยังช่วยในเรื่องความจำ

     3. เนยถั่ว  



เนยถั่วทำจากถั่วเช่นอัลมอนด์เม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วลิสงถือว่าเต็มไปด้วย วิตามินอีโปรตีนแมกนีเซียมแคลเซียมและโพแทสเซียม หากใครที่กังวลในเรื่องไขมัน เนยถั่วนั้นช่วยคุณได้ นอกจากนั้นในเนยถั่วยังมีไขมันดีอีกด้วย

     4. ขนมปังโฮลเกรน 

เป็นธัญพืชที่ช่วยสร้างความมั่นคงระดับน้ำตาลในเลือดและเติมเต็มคุณไปจนถึงอาหารมื้อต่อไป

     5. ผักใบเขียว ผักโขม,ผักคะน้า  


หรือผักใบเขียวชนิดอื่นๆ ทั้งหมดนี้ถือว่ามีเส้นใยอาหาร เกลือแร่,สารต้านอนุมูลอิสระ ไปจนกระทั่งถึงวิตามิน

     6. ผลไม้  


โดยทั่วไปแล้วผลไม้นั้นเต็มไปด้วยใยอาหาร (ลูกแพร์, แอปเปิ้ล, เบอร์รี่, และ กีวี), ขณะที่พวกที่มีวิตามิน ซีก็คือ (มะละกอ, ส้ม),ส่วนผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต้านโรค (สตรอเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่ และ blackberries) ทางด้าน กล้วย ก็มี เซลล์และโปแตสเซียมที่สร้างกล้ามเนื้อ

     7. เมล็ดถั่ว ถั่วและเมล็ดเมล็ดฟักทอง  



มีส่วนโปรตีนวิตามินอีและกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ทำหัวใจแข็งแรง รวมถึงไขมันโอเมก้า 3

     8. โยเกิร์ต  

ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เห็นการโยเกิร์ตปรุงอาหาร แต่โยเกิร์ตนี่แหละเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียมและโปรตีน

     9. เนื้อสัตว์บางๆ  


ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้พลังงานในยามเช้า นอกเหนือจากไข่

     10. ชีส มอซซาเรลล่า  



เป็นเนยแข็งที่ไขมันต่ำแถมยังให้โปรตีนและแคลเซียมสูง

 อาจจะจริงที่ใครหลายคนบอกว่า มื้อเช้ากินอะไรก็มีประโยชน์ทั้งนั้น เพราะสมองต้องเอาไปเลี้ยงร่างกาย แต่เราขอยกเว้นอาหาร 4 อย่างต่อไปนี้ไว้หน่อยแล้วกัน เพราะสถาบันโภชนาการของสหรัฐได้ขึ้น
แบล็กลิสต์อาหารเหล่านี้เอาไว้ในฐานะที่ เป็นอาหารไร้ประโยชน์ และยังทำการตลาดหลอกลวงผู้บริโภคอีกด้วย

   ขนมปังปิ้งทา Chocolate spread

        Chocolate spread บางยี่ห้อที่สื่อต่างกระหน่ำโฆษณาว่าอร่อย เต็มไปด้วยรสชาติหวานมันของเฮเซลนัท และโกโก้ ความน่าตกใจอยู่ที่ปริมาณแคลอรีที่เราได้ เพียงแค่ทาช็อกโกแลตเสปรด 2 ช้อนโต๊ะบนขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ก็ให้แคลอรีพุ่งถึง 200 แคลอรีแล้ว (นี่แค่เฉพาะมื้อเช้านะ) ซึ่งเทียบได้กับปริมาณแคลอรีของช็อกโกแลตขนาด 12 ออนซ์ 1 แท่งเชียวนะ ดังนั้น หากเรารู้สึกตื่นตัวมากขอให้รู้ไว้เถอะว่า หลัก ๆ แล้วมาจากน้ำตาลนั่นเอง ทางที่ดีควรสลับไปทาเนยถั่ว ทาเนย หรือทาแยมผลไม้บ้างจะดีกว่า

   ซีเรียลใส่นม

        อาหารเช้าซีเรียลในทุกวันนี้ไม่ได้ "เรียล" อย่างที่ควรจะเป็นซะแล้ว เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันคอร์นิวโคเปีย หรือองค์กรเฝ้าระวังและตรวจตราการทำงานของบริษัทในสหรัฐ (Cornucopia Institute) ได้สุ่มวิจัยอาหารของบริษัทในเครือ Kashi Golean พบว่า เกือบ 100 % ของผลิตภัณฑ์อาหารเช้าซีเรียลถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการดัดแปลงทางพันธุกรรม จากถั่วเหลือง (GMO material) ไม่ได้ผลิตมาจากโฮลเกรนแท้ 100% ตามที่เขียนไว้ในฉลากข้างกล่อง ดังนั้นประโยชน์ที่ร่างกายจะเอาไปใช้ได้จริงน่าจะมาจากนมอย่างเดียวมากกว่า

   Health bars (Energy bars)

         Health bars ที่เราเห็นว่าอัดแน่นไปด้วยธัญพืช พร้อมคำโฆษณาที่ว่าทำมาจากธัญพืชแท้ ๆ กินแล้วให้พลังงานสูง ไขมันต่ำ แต่คุณรู้ไหมว่า อาหารจำพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความหวาน (มากจริง ๆ) เพราะมีส่วนประกอบของน้ำตาลอย่างน้อย 3 ชนิดขึ้นไป อันได้แก่ น้ำตาลฟรุคโตส น้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุคโตสสูง (high-fructose corn syrup) น้ำตาลทรายแดง และน้ำอ้อย ดังนั้น หากเราเลือกหยิบเอเนอร์จีบาร์กินเป็นอาหารเช้า เท่ากับเราเอาน้ำตาลเข้าปากประมาณ 30 กรัม แม้รสชาติจะไม่เหมือนก็ตาม

   แฮม เบคอน ไส้กรอก

         อาหารเช้ายอดนิยมที่เราควรกินให้น้อยลง เพราะล่าสุด บริษัทออสการ์ เมเยอร์ (Oscar Mayer) บริษัทผู้นำด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เจ้าของแบรนด์ Kraft รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ออกผลิตภัณฑ์จำพวกเนื้อแปรรูปประเภท Selects ออกมาวางขายแล้ว (เช่น ไส้กรอก เบคอน และแฮม ปลอดสารกันบูด และสารเคมีเติมแต่ง) แต่ก็ยังประกาศว่ากระบวนการผลิตยังคงเป็นไปตาม "กระบวนการแปรรูป" ตามมาตรฐานเดิม

       จากข้อมูลการตลาดที่ออกมานี้ ทำให้วิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดรีบออกมาเผยผลการวิจัยว่า การ งดปริมาณบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปทุก ๆ 100 กรัมต่อวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึงร้อยละ 20 นับว่าเป็นคำเตือนที่น่าคิดให้เราหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง...เดี๋ยวนี้เลย

ที่มา: สุขกายสบายใจ, http://women.postjung.com/633281.html


No comments:

Post a Comment