Tuesday, May 28, 2013

7 เคล็ด (ลับ) เสริมแกร่งให้ลูกรัก




เคล็ดลับฝึกเด็กให้รับมือกับความผิดหวังได้อย่างง่ายๆ มีดังนี้  

1)ครอบครัวเข้มแข็ง" คือ ที่พักพิงใจที่สำคัญ ครอบครัวเป็นสถาบันหลักที่อบรมเลี้ยงดูเด็กให้เจริญ เติบโตทั้งด้านร่างกาย สติปัญญาและเป็นที่พึ่งทางจิตใจที่สำคัญที่สุด เมื่อเด็กเจอความผิดหวัง หน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ คือ ต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้ลูกเห็น เช่น ร้องไห้พร้อมกับลูก เพราะยิ่งจะทำให้เด็กเสียขวัญและรู้สึกเสียใจที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมาเสียน้ำตา  

2) “ภาษากาย ความรักและความอบอุ่นที่เด็กสัมผัสได้ เมื่อเด็กเกิดความรู้สึกผิดหวัง ทำให้ไม่พร้อมที่จะรับฟังคำพูดปลอบประโลมหรือคำอธิบายต่างๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงหรือพูดให้น้อยที่สุด แล้วหันมาใช้ภาษากายเพื่อแสดงการปลอบโยนและเข้าใจถึงความรู้สึกที่เด็กมี อาทิ การกอด เอามือตบไหล่ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เด็กรู้สึกว่าให้เกิดอะไรขึ้นก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็ยังรักและเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ
  
3) “ไม่ซ้ำ ไม่ย้ำ ไม่ตำหนิ นอก จากคำตำหนิแล้ว คำต้องห้ามที่ไม่ควรพูดให้เด็กได้ยิน เช่น น่าเสียดาย เพราะจะยิ่งไปซ้ำเติมภาวะจิตใจที่แย่อยู่แล้วให้หนักเข้าไปอีก 

4) “เป็นผู้รับฟังที่ดี พยายามกระตุ้นให้เด็กได้เล่าหรืออธิบายถึงสิ่งที่ยังติดค้างในใจ เพื่อเป็นการระบายความรู้สึกที่ไม่สบายใจออกมา นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจถามในประเด็นที่สำคัญและรับฟังคำตอบอย่างตั้งใจ เพราะเพียงแค่ได้เล่าออกมาให้ใครสักคนฟัง เด็กก็จะรู้สึกสบายใจขึ้น 

5) “เบี่ยงเบนความสนใจจากอดีต ด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบันบาง ครั้งเด็กกังวลและยังจดจ่ออยู่กับความผิดหวังในอดีตที่ผ่านไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและแนะนำโดยให้มองไปยังเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นใน อนาคตแทน

6) “ความพ่ายแพ้และความผิดหวัง คือ เครื่องเตือนใจให้เราอย่าหยุดพัฒนาตัวเองคุณ พ่อคุณแม่ควรใช้เวลาอยู่กับเด็ก โดยเน้นพูดคุยถึงเรื่องดีๆ ในวันข้างหน้า เช่น อนาคตอยากทำอะไร รู้สึกอย่างไรถ้าวันหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานาน หรือให้เล่าประสบการณ์ดีๆ ที่ประทับใจเพื่อลดความรู้สึกในด้านลบของเด็ก 

7) “ค้นหาเด็กเก่งคนใหม่... ที่ซ่อนอยู่ในลูกคนเดิมคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลดความกังวลให้กับเด็กได้ ด้วยการดึงความสามารถด้านอื่นๆ ที่เด็กมีอยู่ออกมาอีก ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกมีโอกาสได้เรียนรู้และพัฒนาความสามารถนั้นมาทดแทนได้   

การเลี้ยงลูกในยุคที่มีการแข่งขันสูง คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่จึงต้องสร้างต้นทุนชีวิตและภูมิคุ้มกันทางจิตใจ ให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเททั้งความรักและความปรารถนาดี เปิดใจรับฟังและทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูด เพื่อหล่อหลอมให้ลูกๆ ได้เจริญเติบโตและเริ่มต้นตั้งหลักชีวิตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต..!!

คัดบทความบางส่วนจาก
พญ.โสรยา ชัชวาลานนท์
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
รพ.เด็ก สมิติเวชศรีนครินทร์
เดลินิวส์

No comments:

Post a Comment